ชป.เน้นบริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด หวังเก็บน้ำฝนปีนี้สำรองไว้ใช้แล้งหน้าให้มากที่สุด

0
7310

กรมชลประทาน เน้นใช้ประโยชน์จากน้ำท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังมีปริมาณฝนตกเพิ่มให้หลายพื้นที่

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ VDO Conference ไปยังผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสำนักงานชลประทานเครือข่าย SWOC ทั้ง 17 แห่งทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจากพื้นที่ต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน

 โดยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 16-17 ส.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน จะส่งผลให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกกระจายในพื้นที่

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน(17ส.ค.63)มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 33,876 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ 10,160 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักฯ) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 8,407 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 34 ของความจุอ่างฯ เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 1,711 ล้าน ลบ.ม. ผลการจัดสรรน้ำฤดูฝนปี 2563 จัดสรรน้ำทั้งประเทศไปแล้ว 7,932 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 ของแผน  เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา จัดสรรน้ำไปแล้ว 2,670 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 82 ของแผนฯ คงเหลือปริมาณน้ำที่ต้องจัดสรรอีกประมาณ 580ล้าน ลบ.ม.

กรมชลประทาน  จะบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และเน้นบริหารจัดการน้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนที่เหลือให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้า โดยได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำท่า ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังได้ให้โครงการชลประทานทุกแห่ง ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการให้คำแนะนำแนวทางการดูแลรักษา การเฝ้าระวัง การบริหารจัดการน้ำของฝาย และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่อยู่ในความรับผิดชอบตลอดฤดูน้ำหลาก เพื่อลดความเสียหายหากเกิดเหตุอุทกภัย หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ทางสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460 หรือติดตามสถานการณ์น้ำได้ทาง http://water.rid.go.th/ และ www.rid.go.th