“ดีป้า” นำผู้แทนดิจิทัลสตาร์ทอัพเข้าพบนายกฯนำเสนอแนวทางส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยก้าวไกลสู่ระดับสากล
14 พฤศจิกายน 2562, ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล – สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นำดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อบันทึกเทปรายการ Government Weekly พร้อมหารือแนวทางส่งเสริมและสนับสนุน รวมถึงแผนขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงของอาเซียน

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการสนับสนุนเรื่องที่จำเป็นต่อการสร้างสตาร์ทอัพ ตั้งแต่การสร้างองค์ความรู้ พัฒนาผู้ประกอบการ อำนวยความสะดวกให้ธุรกิจเติบโต และขจัดอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการลงทุน
“ตลอดระยะเวลา 3 ปี จำนวนสตาร์ทอัพไทยขยายตัวจาก 200 รายในปี 2559 สู่ 1,500 รายเมื่อปีที่ผ่านมา (2561) และยังมีสตาร์ทอัพอีกกว่า 8,500 รายที่รอจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานใหม่มากกว่า 15,000 อัตรา และมีเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพจากเอกชนและรัฐกว่า 35,000 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการและประชาชนที่ต้องการก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจสตาร์ทอัพจำเป็นที่จะต้องเดินไปพร้อมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

.
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับข้อเสนอแนะจากสตาร์ทอัพในเรื่องของการส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างกับสตาร์ทอัพ สร้างระบบการแข่งขันที่เป็นธรรมต่อสตาร์ทอัพ และพิจารณาปรับแก้กฎหมายกฎระเบียบ เพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมจะผลักดันกฎหมายที่ส่งเสริมสตาร์ทอัพให้มีการประกาศใช้โดยเร็ว โดยในทางกลับกัน นายกรัฐมนตรีก็ย้ำว่า สตาร์ทอัพเองก็จะต้องศึกษากฎระเบียบของภาครัฐให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ASEAN Digital Hub นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ASEAN Summit 2019 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้มีการหารือกับกลุ่มประเทศสมาชิกในความร่วมมือและขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของอาเซียนที่ขับเคลื่อนโดยสตาร์ทอัพมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว โดยต้องสร้างนวัตกรรม สร้างตลาดแบบ “Blue Ocean” เพื่อให้เกิดขีดความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับการบันทึกเทปรายการ Government Weekly ในวันนี้มีกำหนดออกอากาศวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย. 2562) ตั้งแต่เวลา 15 นาฬิกาเป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถรับชมได้ทางเฟสบุค เพจ “ไทยคู่ฟ้า” และชาแนล ยูทูบ “ไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล”
#AllnewsExpress




















“






