พาณิชย์ฯชี้ค่าเงินบาทไทยแข็ง!!!
ค่าเงินบาทไทยแข็งค่า แต่การส่งออกไปตลาดสำคัญยังขยายตัวได้ดี

ทั้งนี้ สินค้าเกษตรซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากแข็งค่าของค่าเงิน พบว่า แม้ว่าการส่งออกสินค้าเกษตรบางชนิดจะหดตัว แต่การส่งออกไปบางตลาดยังขยายตัวได้ดี เช่น การส่งออกข้าว 7 เดือนแรกหดตัวร้อยละ 18.5 แต่ส่งออกไปสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 13.9 (มีสัดส่วนร้อยละ 13.8 ของการส่งออกข้าวทั้งหมด) การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 7 เดือนแรกหดตัวร้อยละ 6.9 แต่การส่งออกไปญี่ปุ่นขยายตัวร้อยละ 3.2 (มีสัดส่วนร้อยละ 10.6) การส่งออกข้าวโพด 7 เดือนแรกหดตัวร้อยละ 20.7 แต่การส่งออกไปเวียดนามขยายตัวร้อยละ 29.2 (มีสัดส่วนร้อยละ 23.2) นอกจากนี้ การส่งออกอาหารทะเลกระป๋อง 7 เดือนแรกขยายตัวร้อยละ 2.3 โดยส่งออกไปสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขยายตัวร้อยละ 16.5 และ 10.4 ตามลำดับ เป็นต้น รวมถึงการส่งออกผลไม้สด/แช่แข็งที่มีความนิยมสินค้าไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 44.9 สะท้อนการส่งออกสินค้าเกษตรยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการส่งออก เช่น ความต้องการสินค้า และคุณภาพสินค้า เป็นต้น ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าไลฟ์สไตล์หลายชนิดที่ขยายตัวได้ดี เช่น เครื่องสำอาง/ผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องรับวิทยุและส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ตู้เย็น และผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวร้อยละ 15.3 13.3 12.6 3.3 และ 1.3 ตามลำดับ
.
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2562 คาดว่า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มทรงตัวหรืออาจจะแข็งค่าเพิ่มขึ้น โดยเคลื่อนไหวในช่วง 30.0-31.0 บาท ต่อ ดอลลาร์ สรอ. โดยปัจจัยหลักที่อาจจจะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ประกอบด้วย (1) การดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติมของประเทศสำคัญของโลก อย่าง สหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป (2) แนวทางการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือ Brexit และ (3) ความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งต้องเร่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน เพื่อรองรับผลกระทบจากการความผันผวนและค่าเงินที่อาจจะแข็งค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2562
#AllnewsExpress #ค่าเงินบาทแข็ง
 
			