นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19 ระบาดตั้งแต่ต้นปีจนถึงบัดนี้สถานการณ์เหมือนจะดีขึ้น แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ ทุกคนทุกฝ่ายได้รับผลกระทบหมด พร้อมทั้งมีเสียงกล่าวว่าภาคเกษตรกรรมมีผลกระทบน้อยมาก ความจริงคือภาคเกษตรกรรมได้รับผลกระทบตรงๆในหลายแง่มุมทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิเช่น ภาคการท่องเที่ยวหายไปเลย นักท่องเที่ยวไม่มีเข้าประเทศไทย อาหารที่เกษตรกรผลิตได้จะไปขายใคร ด้านการตลาด การขนส่งสินค้าก็มีอุปสรรคค่อนข้างมาก ขอบคุณรัฐบาลที่กรุณาจัดสรรเงินลงไปเพื่อผ่อนคลายความเดือดร้อนอุ้มชูเยียวยาพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ
นอกจากสถานการณ์ covid-19 แล้ว วิกฤตการณ์เวลานี้ที่พี่น้องเกษตรกรเผชิญอยู่อีกเรื่องคือราคาพืชผลเกษตรไม่ดีเลย เช่น ข้าว ข้าวโพด ยกเว้นปศุสัตว์ สิ่งที่อยากให้เกษตรกรคิดทบทวนคือแผนการผลิตว่าจะสามารถสร้างอาชีพเสริมอะไรได้บ้าง เพื่อให้มีรายได้เข้ามาหลากหลายทางนอกจากการปลูกพืชทางเดียว ยกตัวอย่าง สภาเกษตรกรจังหวัดลำปางพยายามปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโพดขายเป็นอาหารสัตว์ ปรับเป็นผลิตเพื่อขายเป็นพันธุ์ข้าวโพด โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และให้ทำภาคปศุสัตว์เพิ่มเติม เช่น เลี้ยงไก่พื้นเมือง แพะ แกะ เศษเหลือจากข้าวโพดก็นำมาเป็นอาหารภาคปศุสัตว์ได้ รวมทั้งส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่อเป็นอาชีพเสริม เพราะสามารถขายหน่อ ลำไผ่ แปรรูปทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายชนิดมาก ซึ่งสภาเกษตรกรแห่งชาติก็มีมาตรการในการส่งเสริมแนวความรู้ให้พี่น้องเกษตรกรอยู่เตลอด หากเกษตรกร ประชาชนหรือผู้สนใจ สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของสภาเกษตรกรแห่งชาติ www.nfc.or.th ได้ หรือแฟนเพจhttps://www.facebook.com/NFCThailandOfficial ก็จะมีข้อมูลต่างๆเหล่านี้ หรือถ้าสนใจรวมตัวเป็นกลุ่ม สภาเกษตรกรฯก็พร้อมที่จะจัดโปรแกรมในการอบรมให้ความรู้แก่ท่านทั้งหลายได้ โดยสอบถามเพิ่มเติมหรือขอข้อมูลได้จากสภาเกษตรกรจังหวัดทุกจังหวัด
“เราจะร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติการณ์นี้ไปพร้อมๆกัน ขอให้ในปีใหม่นี้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยและขอให้พี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศจงมีสติ ศึกษาหาข้อมูลรอบด้านทั้งจากเพื่อน ผู้ใกล้ชิด ฟาร์ม สวน ไร่ข้างเคียง กลุ่ม อินเตอร์เน็ต เพื่อนำข้อมูลทั้งหลายมาตัดสินใจปรับปรุงการผลิตของตนเองให้ดีขึ้น หากขาดแคลนข้อมูลใดก็ค้นคว้าหรือไปที่สภาเกษตรกรทุกจังหวัดได้ ขออนุญาตให้กำลังใจครับ” นายประพัฒน์ กล่าว