
สำหรับสถานการณ์การผลิตที่ในบางพื้นที่พบการระบาดของโรค PRRS นั้น พบว่าภาครัฐโดยกรมปศุสัตว์ได้เข้าดูแลควบคุมและเฝ้าระวังโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ทั้งหมด โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเกษตรกรที่แจ้งเหตุอย่างทันท่วงที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตามมาตรฐานด้านการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในสัตว์ ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นความสำเร็จจากการสื่อสารในเชิงรุก เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สาธารณชนในเรื่องโรคในสุกรที่ไม่ติดต่อสู่คนที่กรมปศุสัตส์ ร่วมกับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุกรและโรคสัตว์ ได้ดำเนินการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า โรคในสุกรที่เกิดขึ้น เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่สามารถแพร่เชื้อมายังคนได้ และผู้ที่บริโภคเนื้อสุกรก็ไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน
“ขอให้พี่น้องเกษตรกรยืนหยัดในการป้องกันโรคในสุกร ที่พวกเราร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด จนทำให้ไทยยังเป็นประเทศเดียว ที่สามารถคงสถานะปลอดโรคในสุกรที่สำคัญ อย่างเช่นโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ หรือ ASF ได้อย่างน่าภูมิใจ ส่วนโรค PRRS นั้นก็เป็นโรคในสัตว์ที่ไม่มีการติดต่อสู่คน ไม่ก่ออันตรายกับผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ ทำให้การบริโภคในภาพรวมไม่ได้ลดลง อย่างไรก็ตามการให้ข่าวของคนบางกลุ่มว่าการบริโภคลดลงนั้น เป็นการหวังผลในเชิงจิตวิทยา เพื่อกดดันราคาหมูหน้าฟาร์มให้ถูกลง จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรติดตามข่าวสารจากสมาคมฯ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการตัดสินใจในการขายสุกรหน้าฟาร์มต่อไป” น.สพ.วิวัฒน์ กล่าว























