เกษตรฯรุกเปิดศักราชความร่วมมือท่าเรือลอสแองเจลิส-ศุลกากรสหรัฐฯ”
ติวเข้มกฏระเบียบนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังตลาดสหรัฐฯแก่เกษตรกร Startup SMEs –ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มุ่งเพิ่มศักยภาพการส่งออก-รักษาตลาด หลังไทยผงาดขึ้นแท่นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสหรัฐดันยอดส่งออกปี61 พุ่ง 1.3 แสนล้าน
นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯได้เห็นความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันถือเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรและอาหารอันดับ 3 ของไทยโดยในปี 2561 การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปสหรัฐฯสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นมูลค่าถึง 1.3 แสนล้านบาท จากความสำคัญดังกล่าวสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)ร่วมกับฝ่ายการเกษตรประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ต้องเข้าใจอะไรบ้าง (มุมมองเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ)”ขึ้น เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้ส่งออกกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าและตรวจปล่อยสินค้าเกษตรและอาหารของสหรัฐฯรวมทั้งขั้นตอนดำเนินการของการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งผ่านท่าเรือลอสแอนเจลิสซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญในการส่งออกสินค้าของไทยไปสหรัฐฯ ให้แก่หน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการรายย่อยตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิต Startup SMEs ไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่และสมาคมภาคอุตสาหกรรมจำนวน 400 คน
“สำหรับสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่สหรัฐฯนำเข้าสูงสุดได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาทิ กุ้ง ปลาทูน่า ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาทิ สับปะรด ข้าว ยางพารา กุ้งสด (แช่เย็น แช่แข็ง) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด (แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง) และขนมขบเคี้ยว เป็นต้น โดยการส่งออกส่วนใหญ่ผ่านทางเรือเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะท่าเรือลอสแองเจลิสและลองบีชในมลรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งถือเป็นท่าเรือนำเข้าตู้สินค้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และเป็นลำดับ 9 ของโลก” และ ปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย คือการดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักพิธีศุลกากร หน่วยงานสำคัญของสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว อาทิ หน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ หรือ CBP ซึ่งทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า การส่งออกและการเก็บภาษีอากรและดำเนินพิธีการศุลกากรบนพื้นฐานความปลอดภัยของผู้บริโภคและองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาหรือ U.S.FDA ซึ่งทำหน้าที่ในเรื่องความปลอดภัยต่ออาหารและยาเทียบได้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย
ด้านนายนอร์แมน อาริกาวะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการพัฒนาการค้าการท่าเรือนครลอสแอนเจลิส ผู้ทำหน้าที่ให้บริการท่าเทียบเรือสินค้า กล่าวถึง ท่าเรือลอสแอนเจลิสว่า เป็นท่าขนส่งสินค้าทางทะเลที่มีปริมาณการขนถ่ายสินค้าสูงที่สุดแห่งหนึ่งและถือเป็นท่าเรือสำคัญที่เป็นประตูสู่การค้าระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาหน่วยงานทั้งสามต่างก็ได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพและมาตรฐานทำให้การจัดส่งสินค้าจากไทยไปสหรัฐอเมริกาประสบผลสำเร็จด้วยดีและส่งผลดีต่อสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมาโดยตลอด การสัมมนาครั้งนี้หวังว่าSMEจะเข้าใจกฎระเบียบและข้อปฏิบัติการส่งสินค้าไปสหรัฐฯมากขึ้นอีกด้วย
ด้านนายครรชิต สุขเสถียร รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดสัมมนา “ส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ต้องเข้าใจอะไรบ้าง” ไม่ได้เป็นเพียงเวทีให้ความรู้ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังสหรัฐฯเพียงเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่นำเข้าสินค้าเกษตรของสหรัฐฯโดยตรง อาทิ ผู้แทนจากการท่าเรือนครลอสแอนเจลิส เจ้าหน้าที่ด้านศุลกากรและผู้แทนนำเข้าและส่งออกแห่งนครลอสแอนเจลิส ผู้แทนสมาคมผู้ออกของรับอนุญาต(Customs Brokers)บริษัทที่ปรึกษากฎหมายด้านการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร(FDAImport.com) เป็นต้น ซึ่งล้วนมีประสบการณ์โดยตรง รวมทั้งมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์และโอกาสของตลาดสหรัฐอเมริกาที่ยังมีศักยภาพรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมของไทย
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯโดยมกอช. ได้ลงนามความร่วมมือในเครือข่ายพันธมิตรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยอาหารในสถานประกอบการทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2559 โดยปัจจุบันมีผู้ผ่านการรับรองให้เป็นผู้ฝึกอบรม(Lead Instructor) หลักสูตรภายใต้กฎหมายความปลอดภัยอาหารของสหรัฐอเมริกา(Food Safety Modernization Act: FSMA)ในประเทศแล้วกว่า 30 คน มีจำนวนผู้ปฏิบัติที่ผ่านการรับรองแล้วถึงกว่า800คน รวมทั้งได้พัฒนากระบวนการรับรองระบบงานด้านความปลอดภัยอาหารมนุษย์และสัตว์ และเตรียมขยายขอบข่ายการให้การรับรองระบบงานให้ครอบคลุมสินค้าอื่นๆที่ส่งออกสหรัฐฯ ได้แก่ อาหารกระป๋องที่มีความเป็นกรดต่ำ(LACF)น้ำผลไม้และอาหารทะเลภายในปี2562 ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าเกษตรและอาหารกว่าร้อยละ90 ที่ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา
“การจัดสัมมนาดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือของทุกภาคส่วนและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถด้านการผลิตการปกป้องและรักษาตลาดตลอดจนการขยายโอกาสในการแข่งขันการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปสหรัฐต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต” นายครรชิต กล่าว
#AllnewsExpress #เกษตร #สินค้าเกษตร #มกอช #สหรัฐฯ