จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องประกอบกับปริมาณน้ำฝนสะสมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด กรมชลประทาน ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย หวังลดความเดือดร้อนของประชาชน อาทิ
– จังหวัดสงขลา
ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฮดรอลิค (HYDRO FLOW) จำนวน 3 เครื่อง บริเวณสถานีสูบน้ำบางหยี อำเภอบางกล่ำ เพื่อเร่งระบายน้ำบริเวณปากคลอง ร.1 ลงสู่ทะเลสาบสงขลา
– จังหวัดยะลา
ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 1 เครื่อง บริเวณเรือนจำยะลา หมู่ที่ 3 ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา
– จังหวัดนราธิวาส
ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด บริเวณสนามบินนราธิวาส เร่งระบายน้ำออกจากสนามบิน , ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด จำนวน 3 เครื่อง บริเวณท่อระบายน้ำปลายคลองลาน(เรือนแพ) หมู่ที่ 3 บ้านใหญ่ ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ , ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฮดรอลิค (HYDRO FLOW) 2 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำปากคลองมูโนะ และพนังกั้นน้ำมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก , ติดตั้ง Big Bag และกระสอบทราย เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัย บริเวณประตูระบายน้ำปากคลองมูโนะ และ พนังกั้นน้ำมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก , แจกจ่ายข้าวกล่อง จำนวน 200 กล่อง เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
นอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย อาทิ ใช้เครื่องจักรขุดเปิดช่องทางการระบายน้ำ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง บริจาคอาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งกางเต็นท์ช่วยเหลือประชาชนให้มีสถานที่พักพิงชั่วคราว เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม และให้โครงการชลประทานในพื้นที่เปิดประตูระบายน้ำทุกแห่ง เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมเน้นย้ำให้โครงการชลประทานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า และจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง หากเกิดเหตุให้สามารถเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายรัฐบาล และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์