ชป.ร่วมลงนาม MOU แบ่งปันน้ำจากลุ่มน้ำคลองวังโตนด รองรับการใช้น้ำในพื้นที่ EEC

0
5149

บ่ายวันนี้(4 ก.พ. 63)ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมการแบ่งปันน้ำจากลุ่มน้ำคลองวังโตนด เพื่อรองรับภัยแล้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมลงนามข้อตกลง(MOU) ระหว่างกรมชลประทานกับคณะกรรมการลุ่มน้ำคลองวังโตนด โดยมี นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และนายสุริยพล นุชอนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 กรมชลประทาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 4  ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า การประชุมในครั้งนี้ เพื่อร่วมรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับข้อตกลง(MOU) การแบ่งปันน้ำจากลุ่มน้ำคลองวังโตนดไปยังพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) และการจัดทำ CSR ในพื้นที่ เพื่อสนับสนุน EEC สร้างความมั่นคงทางด้านน้ำให้แก่พื้นที่สำคัญของประเทศ ทางด้านเกษตรกรรม พาณิชยกรรม การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม

.

สำหรับระบบผันน้ำระหว่างอ่างเก็บน้ำในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วยอ่างเก็บน้ำ    ประแสร์ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำบางพระ และกลุ่มอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 5 แห่งในเมืองพัทยา ความจุรวมประมาณ894 ล้าน ลบ.ม. โดยมีระบบท่อผันน้ำเป็นตัวเชื่อมโยงถึงกัน เพื่อเชื่อมโยงปริมาณน้ำจากจังหวัดระยองไปยังจังหวัดชลบุรี

.

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการโครงการเชื่อมโยงระบบอ่างเก็บน้ำ ในลุ่มน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ผ่านระบบผันน้ำจากลุ่มน้ำคลองวังโตนด-ประแสร์ ตั้งอยู่บริเวณคลองวังโตนด บ้านกังประดู่ อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ความยาวท่อ 45.69 กม. ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง อัตราการสูบเครื่องละ 0.625 ลบ.ม.ต่อวินาที รวม 5 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือวันละประมาณ 432,000 ลบ.ม. ในขณะที่ลุ่มน้ำคลองวังโตนด มีปริมาณน้ำท่ารายปีประมาณ 1,237 ล้าน ลบ.ม. ประกอบด้วยลำน้ำสำคัญ 4 สาขา ได้แก่ คลองหางแมว คลองวังโตนด คลองประแกด และคลองพวาใหญ่ โดยปัจจุบันกรมชลประทานได้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองประแกด ความจุ 60 ล้าน ลบ.ม. เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองพวาใหญ่ ความจุ 68 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำคลองหางแมว  ความจุ 80.7 ล้าน ลบ.ม. อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 และปี 2565 ตามลำดับ ด้านอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ความจุ 99.5 ล้าน ลบ.ม. อยู่ระหว่างการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EHIA)ของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร  โดยจะเริ่มโครงการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2564 หากแล้วเสร็จจะทำให้มีน้ำต้นทุนจากอ่างฯ 4 แห่ง รวมกันประมาณ 308.5 ล้าน ลบ.ม.

กรมชลประทาน มุ่งมั่นพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อสนับสนุนทุกภาคส่วนให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม อันจะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำและร่วมพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้อย่างยั่งยืน