กรมชลประทานชี้แจงกรณี ประตูระบายน้ำที่แปดริ้วสร้างไว้เกือบ 30 ล้านบาท เมื่อประมาณ 8-9 ปี ที่ผ่านมา ปล่อยร้างใช้งานไม่ได้ บานประตูระบายเปิดค้าง ไม่มีหม้อแปลงไฟฟ้า ตู้ระบบไฟฟ้าปิดตาย สายไฟหาย ตู้ระบบคอนโทรลมอเตอร์ว่างเปล่า คานปูนแตก มีการถมดินปิดปากคลองหน้าประตูระบายและตั้งเครื่องสูบน้ำ ผู้รับเหมา ขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดนครเนื่องเขต (วัดต้นตาล) ตั้งแคมป์คนงาน ประมาณ 10 คน และคนงานปั้นจั่น ประมาณ 4-5 คน ขอใช้ไฟฟ้าของวัดและไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้า นั้น
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ประตูระบายน้ำดังกล่าว คือ ประตูระบายน้ำคลองวังตะเคียน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อสร้างเมื่อปี 2554 ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำในลำคลองสายรอง อยู่ในเขตความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต แต่เนื่องจากที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกขโมยสายไฟและอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ หลายครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ทางโครงการฯจึงได้ถอดหม้อแปลงไฟฟ้าไปเก็บรักษาไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อรอการซ่อมแซมพร้อมอาคารประกอบ ในปีงบประมาณ 2564
ส่วนกรณีการถมดินปิดปากคลองนั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ (2562/63) ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองวังตะเคียนแห้งขอด กระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ จำเป็นต้องสูบน้ำจากคลองนครเนื่องเขตที่ยังคงมีปริมาณน้ำเพียงพอ มาเติมให้กับคลองวังตะเคียน ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงต้องปั้นทำนบดินปิดปากคลองด้านหน้าประตูระบายน้ำ พร้อมติดตั้งท่อสูบน้ำเข้าคลอง เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลย้อนกลับคืนสู่คลองนครเนื่องเขต ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างมาก
สำหรับกรณีการค้างค่ากระแสไฟฟ้าของผู้รับเหมาระหว่างก่อสร้าง โครงการฯ ได้มอบหมายหัวหน้าฝ่ายส่งน้ำฯ ที่ 2 เข้าประสานในรายละเอียดกับเจ้าอาวาสวัดนครเนื่องเขต (วัดต้นตาล) เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนต่อไปแล้ว จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน