“นครินทร์” ผงาดโพลลุ้นแชมป์ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนามสุดท้าย

0
2926

ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทยดีกรี โมโตทรี ชิงแชมป์โลกจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานระดับมาสเตอร์กดเวลาผงาดคว้าโพลโพซิชั่นในศึก พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามสุดท้าย เหนือทีมเมทอย่าง “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท เพียง 0.27 วินาที ลุ้นคว้าแชมป์แรกในคลาส ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 ครั้งแรกส่งท้ายฤดูกาลในวันอาทิตย์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายของปี ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดเป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท

ในคลาสใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 แม้ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม จะเก็บแต้มขาดลอยคว้าแชมป์ประจำปี 2019 ไปครองเรียบร้อยแล้ว ทว่าการลุ้นตำแหน่งรองแชมป์ระหว่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี และ “เบียร์” เฉลิมพล ผลไม้ คู่หูจาก ยามาฮ่า ไรเดอร์สคลับ เรซซิ่ง ทีม ที่ต้องบดกับ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ก็ต้องมาตัดสินกันในสนามสุดท้าย

 

โดยหลังผ่านการควอลิฟาย ปรากฏว่าตำแหน่งโพลในคลาส ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซีเอสบี1 ตกเป็นของ นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ที่กดเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.134 วินาที เฉือนทีมเมทอย่าง “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท ในกริดที่ 2 เพียง 0.270 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อนุชา นาคเจริญศรีตามหลัง 0.741 วินาที ด้านจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง ฐิติพงศ์ วโรกร ได้ออกตัวจากกริดที่ 4 ลุ้นคว้าแชมป์ 4 สนามติดต่อกันในสุดสัปดาห์นี้

 

ส่วนผลการควอลิฟายในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี เอสที1 ตำแหน่งโพลตกเป็นของ อภิเดช บุญศรี จาก คาวาซากิ พีทีที ไฉไล ไบค์ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 38.328 วินาที เหนือกริดที่ 2 อย่าง ออ ปิตะบุตร จาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต ไทยแลนด์ 1.089 วินาที ด้านกริดที่ 3 เป็นของ อัศวิน คงทนไพศาลจาก ยูทีอาร์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 1.239วินาที

ขณะที่กริดสตาร์ทในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 ตำแหน่งโพลเป็นของจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง “เบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาทรี 40.751 วินาที เฉือน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวลจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลินส์ กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.020 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3เป็นของ “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ทีเอชอาร์ซี ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง ตามหลัง 0.808 วินาที

 

ด้านตำแหน่งโพลโพซิชั่นในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี เอสเอส1 ตกเป็นของ รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. โมตุล น้ำบาน โก๋ ท่ามะกา ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 48.160 วินาที เหนือจ่าฝูงอย่าง วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลินส์ กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.353 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3เป็นของทีมเมทอย่าง พีระพงษ์ หลุยส์บุญเป็ง ตามหลัง 0.666 วินาที

 

สำหรับ แชมป์ประจำปีของศึก พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2019 จะได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ดเข้าร่วมแข่งขันในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2020 โดยแชมป์ในรุ่นใหญ่อย่าง พีทีที บีอาร์ไอซี เอสบี1 และเอสที1 จะคว้าสิทธิ์ไวด์การ์ดในคลาส เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000ขณะที่แชมป์ในรุ่น พีทีที บีอาร์ไอซี เอสเอส1 จะได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ดเข้าร่วมแข่งขันในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี

 

ทั้งนี้ ศึก พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามสุดท้าย จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเพื่อชิงแชมป์ประจำปีกันในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนนี้

#AllnewsExpress