วันนี้ (20 ธันวาคม 2567) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายไพฑูรย์ ศรีมุก ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และรายงานสรุปผลการดำเนินงาน ณ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยน้ำเค็ม ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูล มีเขื่อนขนาดใหญ่ 9 แห่ง ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพะเพลิง เขื่อนลำแซะ เขื่อนมูลบน จังหวัดนครราชสีมา เขื่อนลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ และเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกัน 7,547 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ปัจจุบัน (ณ 18 ธ.ค. 67) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 5,652 ล้าน ลบ.ม. (75% ของความจุอ่างฯรวมกัน)
สำหรับในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ใหญ่ มีเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 17 แห่ง ความจุเก็บกักรวมกัน 82 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 54 ล้าน ลบ.ม. (66% ของความจุอ่างฯรวมกัน) มีอาคารชลประทานที่กรมชลประทานได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2556 คือ ประตูระบายน้ำ(ปตร.) D5(ห้วยน้ำเค็ม) สำหรับใช้ในการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ได้ประมาณ 30,000 ไร่ มีศักยภาพระบายน้ำได้สูงสุด 15 ลบ.ม./วินาที หรือ วันละ 1.3 ลบ.ม.
ทั้งนี้ เมื่อปี 2564 – 2565 ได้เกิดเหตุการณ์อุทกภัย ทำให้คันดินด้านท้ายอาคารที่ทำหน้าที่ป้องกันน้ำจากแม่น้ำชีไหลป่าเข้าท่วมพื้นที่ชลประทานชำรุดเสียหาย ทำให้ปตร.D5 (ห้วยน้ำเค็ม) ไม่สามารถป้องกันน้ำจากแม่น้ำชีได้อย่างเต็มศักยภาพ กรมชลประทาน ได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะเร่งด่วน ด้วยการวางแผนปรับปรุงคันดินด้านท้ายปตร. โดยการก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งยาว 60 เมตร และขุดลอกลำห้วยต่อเนื่องลงไปจนถึงแม่น้ำชีประมาณ 700 เมตร หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งให้กับพี่น้องชาวอำเภอเชียงยืน และอำเภอโกสุมพิสัย ได้ประมาณ 30,000 ไร่ รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และส่งเสริมการประมงในฤดูแล้ง ของราษฎรในพื้นที่ตำบลยางท่าแจ้งและบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมคันดินและก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งดังกล่าว ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวมหาสารคามต่อไป