“บิ๊กตู่” โว เป็นนายกฯ ไร้ส.ว. ร่วมโหวต ยกเรื่องเก่าสวนฝ่ายค้าน แจง เหตุต้องเข้ามา เพราะหลายเรื่องไม่เคยเกิดในปท.

0
5238

ยกเคส “ผมอยู่ไม่ได้ ประเทศก็อยู่ไม่ได้ –ถุงขนมย้ำยีอำนาจตุลาการ ไม่ยอมติดคุก นิรโทษกรรม” สวน “เพื่อไทย”ชี้แจงง่ายๆ ยังไม่เข้าใจ ก็ยากที่จะชี้แจงต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงภายหลังนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านแถลงข้อกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯว่า ขอชี้แจงในขั้นต้นเรื่องที่ไม่วางใจตนมีหลายเรื่องตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่ตนไม่โกรธเลย ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด ตนเข้ามาชี้แจงด้วยความยินดี แม้มีการปล่อยข่าวว่า มีการเผชิญทั้งศึกใน ศึกนอก อย่างไรก็ตามไทยเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย เป็นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งเป็นฉบับที่มีคนว่าทั้งดีและไม่ดี อาจจะไม่ถูกใจใครบ้างก็ตาม ทั้งนี้ส.ส.ทั้งหลายรวมถึงตนก็ผ่านการเลือกของประชาชน จำกันได้หรือไม่ ว่าตนได้คะแนนเสียงโหวตเลือกนายกฯ เกิน 250 เสียง ซึ่งมากกว่าฝ่ายค้าน ไม่มีส.ว.มาร่วมโหวตด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวหาว่าตนไม่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น ตนไม่เคยมีความคิดแบบนี้เลย แต่ต้องมองย้อนกลับไปก่อน 22 พ.ค. 57 ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์ในปี 53 เกิดอะไร นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเข้ามาอยู่ตรงนี้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาให้เกิดความเรียบร้อยก่อนนำสู่การเลือกตั้ง นอกจากนั้น สิ่งที่ตนกังวลในตอนนั้นคือการโกง ลองย้อนกลับไปดูว่ามีจำนวนเยอะหรือไม่ ลองตอบในใจดู ไม่ต้องตอบดังๆ และมีเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศหลายอย่าง การทำลายอำนาจตุลากการ ซึ่งชาวบ้านยอมรับ ยอมติดคุก แต่บางคนไม่ยอมติดคุก อย่างเรื่องถุงขนนม ประชาชนก็ลองเปรียบเทียบดู ซึ่งกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อประโยชน์ใครไม่ทราบ รวมถึงการนิรโทษกรรม โครงการรับจำนำข้าว ใครทำก็ไม่รู้

“ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าผมใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม ผมไม่เคยไปก้าวล่วงใคร หรือจับติดคุกโดยปราศจากหลักฐานและข้อเท็จจริง ท่านไม่เป็นธรรมกับผม ผมไม่เคยว่า ผมก็อารมณ์เย็นตลอด ในอดีต จ.ภูเก็ตและนครสวรรค์ก็โดนมาแล้ว ถ้าไม่เลือกเราก็ไม่ได้โครงการ หรือที่มีบางคนพูดว่า ผมอยู่ไม่ได้ ประเทศก็อยู่ไม่ได้ ใครพูดก็ไม่รู้ ดังนั้น ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน ก็ลงโทษคนทำผิดไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าเศรษฐกิจมีปัญหา ต้องถามว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น หลายคนนั่งอยู่ตรงนี้ก็ ทราบดี เพราะนั่งอยู่กับตนด้วย แล้วใครถูกตี ถูกทุบรถ เรื่องเหล่านี้ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากท่านจะตอบโต้ก็เอาหลักฐานมายืนยันแล้วกัน ทั้งนี้ในเรื่องมาตรา 44 จะเอาไปแกล้งข้าราชการทำไมวันนี้ไม่มีแล้ว ที่ผ่านมาเอาไว้แก้ปัญหาเช่น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ และการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู ซึ่งก็ทำสำเร็จไม่ใช่ เอาไว้ทำนู้นทำนี้ แต่ใช้ในการบูรณาการหรือแก้ปัญหา แล้วที่บอกว่าตนสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าใครพูดก็แล้วแต่ มันเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ตนไม่ได้ไปนั่งร่วมร่างด้วย เพียงแต่ส่งความเห็น กรธ.ได้ข้อสรุปอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น และ 5 ปี 7 เดือนที่อยู่ในตำแหน่ง ลองนึกดูว่า มีคดีทุจริตกี่คดี ที่ผ่านมาเคยมีการแก้ไขหรือไม่ในกระบวนการยุติธรรม การทำงานของตนทำตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ใช่ไปนั่งหัวโต๊ะแล้วสั่ง ไม่ก้าวล่วงอำนาจเขาเลย เพราะทุกกระทรวงมีกฎหมายอยู่ อย่างไรก็ตามที่บอกว่า ตนเอื้อประโยชน์ให้ใครนั้น เป็นการวิเคราะห์ วิจารณ์ หรือคาดกราณ์กันไป แล้วที่บอกว่ารัฐบาลใช้โครงการประชานิยม แต่ตนเรียก tailor made หรือมี่แปลว่าช่างตัดเสื้อ คือแก้ปัญหาให้กับประชาชนแต่ละกลุ่มที่มีรายได้น้อย ซึ่งเราต้องดูแลเรื่องนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังสามารถชี้แจงได้ รวมถึงเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน BEM เรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่สมัยไหน มีการให้สัมปทานมา 30 ปีแล้ว ซึ่งตนก็ต้องแก้ไข เพราะมีกรณีฟ้องร้อง ทั้งนี้ตนเป็นทหาร ต้องรักษาสัตย์ รักษาจิตใจของตนเอง และต้องการให้การอภิปราบเป็นประโยชน์ เมื่อชี้แจงอะไรก็ให้กรุณาฟัง

หลังจากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า นายกฯ กล่าวคำเท็จในสภาที่ระบุว่า ไม่ได้ใช้เสียงวุฒิสภา เพราะความจริงแล้วในวันโหวตนายกฯเป็นการประชุมรัฐสภา ดังนั้น จึงถือเป็นการพูดเท็จ แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภา กล่าวชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทำผิดข้อบังคับใดๆ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าชี้แจงง่ายๆยังไม่เข้าใจ ก็ยากที่ตนจะชี้แจงต่อไป ก็ขอยุติเท่านี้ แต่เพียงเท่านี้ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพล.อ.ประยุทธ์ พูดจบได้ยิ้มและนั่งลง