“อนุทิน” คิกออฟ ช่องทางรับยาใกล้บ้าน ลดความแออัดรพ.

0
1597

“อนุทิน” คิกออฟ ช่องทางรับยาใกล้บ้าน ลดความแออัดรพ.

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการรับยาใกล้บ้าน ตามนโยบายลดความแออัดในโรงพยาบาล เดินหน้าในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด และจิตเวชที่สนใจสอบถามโรงพยาบาลที่รักษา และรับยาที่ ร้านยาชุมชนอบอุ่น ใกล้บ้าน ตั้งเป้าปี 2563 ดำเนินการครบใน 50 โรงพยาบาล 500 ร้านยา

ที่ ร้าน save drug center บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร เปิดตัวโครงการรับยาใกล้บ้าน ตามนโยบายการลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยร้านยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1)

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีความพร้อมแล้วทั้งในส่วนโรงพยาบาลและร้านยา เพื่อเป็นทางเลือกในการรับยาหลังพบแพทย์ให้กับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่สมัครใจ ไม่ต้องรอคิวรับยา โดยแพทย์ให้ความเห็นว่าผู้ป่วยมีอาการคงที่ สามารถร่วมโครงการรับยาที่ร้านยาได้ ซึ่งร้านยาที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นร้านยาแผนปัจจุบัน ข.ย.1 ที่มีเภสัชกรประจำร้าน และจะมีป้ายสัญลักษณ์ ร้านยาชุมชนอบอุ่น ที่หน้าร้าน

ในช่วงเริ่มต้นโครงการจะดูแลผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคคือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด และโรคทางจิตเวช รวมถึงโรคเรื้อรังอื่นที่ไม่ซับซ้อน ยาที่ผู้ป่วยจะได้รับจากร้านยาในระยะแรกจะเป็นยาที่จัดส่งมาจากโรงพยาบาล เป็นยารายการเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วย สิ่งสำคัญของโครงการนี้คือการเชื่อมต่อข้อมูลของผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลและร้านยา ที่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยในการส่งข้อมูล

โดย การรับยาผ่านร้านขายยา มีร้านขนาดเล็กและใหญ่ ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นขนาดใหญ่เท่านั้น การให้บริการในร้านขายยา    นอก จากความรู้เรื่องยาประชาชนยังจะได้รับความใกล้ชิด ด้วยบริการซักถามยาที่ไม่เข้าใจถึงวิธีการรับประทาน การใช้และการตรวจวัดความดันพื้นฐาน โดยเภสัชกร ขณะเดียวกันร้านขายยาจะได้รับค่าตอบแทน ในการจ่ายยาให้ผู้ป่วยครั้งละ 70 บาทด้วย

สำหรับ ร้าน save drug center บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ เครือข่ายรับยาของโรงพยาบาลราชวิถีสำหรับผู้ป่วย 4 โรคในเขตหลักสี่ จำนวน 3,000 คน จากทั้งหมด 10,000 คน ยังมีโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ในพื้นที่ กทม. ที่เข้าร่วมโครงการอีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเลิดสิน และโรงพยาบาลนพรัตราชธานี ส่วนโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครที่ร่วมโครงการ จะเริ่มดำเนินการประมาณเดือนมกราคม 2563

ขณะนี้มีโรงพยาบาลในต่างจังหวัดและกทม.ที่ขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการแล้ว 35 แห่ง และร้านยากว่า 300 แห่ง จะดำเนินการให้ครบ 50 โรงพยาบาล 500 ร้านยา ในปีงบประมาณ 2563

#AllnewsExpress