“เฉลิมชัย” เรียกทุกหน่วยงานถกด่วน เร่งออกมาตรการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร

“เฉลิมชัย” เรียกถกด่วนทุกหน่วยงาน ระดมช่วยเหลือเกษตรกรพื้นที่ประสบอุทกภัยจากพายุ 2 ลูก 27 จว. เตรียมช่วยฟื้นฟูอาชีพให้ปัจจัยการผลิต เร่งหามาตรการเสริมรายได้เลี้ยงครอบครัวระหว่างรอเพาะปลูกรอบใหม่

0
1322

“เฉลิมชัย” เรียกทุกหน่วยงานถกด่วน เร่งออกมาตรการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมชลประทาน ว่า มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัยจากพายุโพดุล และคาจิกิ รวม 27 จังหวัด ปัจจุบัน (10 ก.ย.62) ยังมีพื้นที่น้ำท่วม 12 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สกลนคร นครพนม และศรีสะเกษ ส่วนที่สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วมี 15 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย เพชรบูรณ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มุกดาหาร สระแก้ว ชุมพร และระนอง

จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหายของพื้นที่เกษตรทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมงอย่างต่อเนื่อง แล้วรายงานเข้ามายังศูนย์เฝ้าระวังและบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติของกระทรวงเกษตรฯ วอร์รูมภัยพิบัติ ทุกวัน ทั้งนี้พื้นที่ใดทางจังหวัดประกาศเป็นเขตภัยพิบัติให้เร่งจ่ายค่าชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. 2562 นอกจากนี้จะเรียกประชุมหารือเพื่อกำหนดมาตรการฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเร็ว เพื่อสนับสนุนพันธุ์พืช-พันธุ์สัตว์และปัจจัยการผลิต รวมถึงแนวทางเสริมเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวระหว่างกลับมาทำการเกษตรรอบใหม่

ด้าน นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลดทันที โดยเร็ว สำหรับพืชผลเกษตรที่เสียหายโดยสิ้นเชิงให้เกษตรกรติดต่อขอรับการช่วยเหลือที่สำนักงานเกษตรอำเภอตามที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้

ขณะที่ นายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใน 20 จังหวัดได้รับความเดือดร้อนได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษตร กระบี่ และตรังเนื่องจากสัตว์น้ำที่ใกล้จับจำหน่ายได้หลุดลอยไปกับน้ำหลากเกือบทั้งหมด จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 29,883 ไร่ เกษตรกรเดือดร้อน 25,286 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้เพาะเลี้ยงปลานิลในกระชัง เลี้ยงปลาดุก กบ และกุ้งก้ามกรามในบ่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ขณะนี้ยังให้สำนักงานประมงพื้นที่สำรวจอย่างต่อเนื่องแล้วรายงานมายังกรมทุกวัน จากการสอบถามนั้น เกษตรกรต้องการกลับมาประกอบอาชีพประมงรอบใหม่โดยเร็ว แต่ส่วนใหญ่มีปัญหาด้านเงินลงทุน จึงต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะได้นำเสนอผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เพื่อพิจารณาต่อไป

 

#AllnewsExpress #ฟื้นฟูพื้นที่เกษตร #หลังน้ำลด #รมว