จากกรณียายบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี ที่ถูกกรมบัญชีกลางเรียกเก็บเบี้ยผู้สูงอายุคืนย้อนหลัง 10 ปี จำนวน 84,400 บาท สืบเนื่องจาก จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชายของคุณยาย ซึ่งเป็นทหารสังกัด มทบ.21 นครราชสีมา เสียเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2544 คุณยายจึงได้รับเงินบำนาญเดือนละ 5,000 บาท ต่อมาประมาณเดือน พ.ค.2562 ทางรัฐได้เพิ่มวงเงินบำนาญดัวกล่าวเป็นกรณีพิเศษ อีกเดือนละ 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท แต่คุณยายไม่ทราบเพราะไม่ได้เช็กยอดเงิน ส่วนใหญ่จะให้ลูกหลานเป็นคนไปเบิกให้ ประกอบกับคุณยายยังมีเบี้ยคนพิการอีกเดือนละ 800 บาท
ทั้งนี้ นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน หัวหน้าพรรคยุทธศาสตร์ชาติ, นายสุริยนต์ กลิ่นดี ผู้อำนวยการพรรคฯ และนายเกียรติตระกูล ใจไทย หรือบิ๊กป๋วย ใจไทย ผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคฯ และคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ตลอดรับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขเยียวยาต่อไป
โดยนายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ” จากการพูดคุยเพื่อให้กำลังใจกับคุณยายกับครอบครัว และ ให้คุยและเปลี่ยนเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาในเบื้องต้นพอสรุปได้ว่า ทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งว่า คุณยายบวนสามารถผ่อนชำระคืนเงินจำนวนดังกล่าวได้ได้ ตามระเบียบที่กำหนดไว้ คือ หากผ่อนชำระภายใน 1 ปี จะไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าเกิน 1 ปี ตามระเบียบก็กำหนดไว้จะต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้แบ่งจากเงินบำนาญพิเศษดังกล่าว ไปผ่อนชำระ หากจะผ่อนแบบไม่มีดอกเบี้ย ต้องผ่อนเฉลี่ยประมาณเดือนละ 7,030 บาท จำนวน 12 เดือน แต่ทั้งนี้คุณยายบวนได้มีการต่อรองขอลดจำนวนเวินในการชำระแต่ละงวดลงและจอเพิ่มระยะเวลาการชำระเป็น20เดือนโดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งอยู่ในระหว่างการรอพิจารณาตอบกลับ
กรณียายบวน ครั้งนี้ อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูไ้ว้กรณีตัวอย่าง และฝากถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐทบทวนการทำงานให้รอบครอบเพื่อจะได้ไม่ต้องมาแก้ปัญหาย้อนหลังเช่นนี้ ลองคิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ใช่ใช้ข้อกฎหมายแก้ไขปัญหาเพียงเดียว และโดยส่วนตัวคิดว่า ควรมีการผลักดันปรับแก้อัตราเบี้ยผู้สูงอายุจากเดิมเดือนละ 800 บาท เป็น 3,600บาท เพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงค์ชีพอย่างแท้จริง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรคยุทธศาสตร์ชาติ อยู่แล้วและหากได้ร่วมรัฐบาล จะผลักดันเรื่องนี้อย่างแน่นอน ” นาย ขจรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย