นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนปี 2564 อย่างเป็นทางการไปแล้ว นั้น โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 5-10 ประกอบกับหลายพื้นที่มีปริมาณฝนเพียงพอสำหรับการทำนาปีแล้ว จึงได้สั่งการไปยังโครงการชลประทานทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ให้ประสานจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรในพื้นที่ ให้เริ่มทำนาปีหรือเพาะปลูกพืชพร้อมกันโดยให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก ซึ่งในปีนี้ได้วางแผนเพาะปลูกพืชทั้งประเทศรวม 16.65 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีแผนเพาะปลูกพืช 7.97 ล้านไร่ ปัจจุบันพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกพืชไปแล้วประมาณ 543,725 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 38 ของแผนฯ ทั้งนี้ จะรณรงค์ให้เกษตรกรที่พร้อมทำนาปี เร่งเพาะปลูกเพื่อให้เก็บเกี่ยวแล้วเสร็จทั้งหมดก่อนฤดูน้ำหลากในช่วงเดือนตุลาคม เป็นการลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหายทั้งยังสามารถใช้พื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นพื้นที่หน่วงน้ำ หรือตัดยอดน้ำจากทางตอนบน ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำหลากที่จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนเมือง
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ บริหารจัดการน้ำตามมาตรการที่วางไว้ ด้วยการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอตลอดทั้งปี วางแผนการปลูกพืชโดยใช้น้ำฝนเป็นหลัก เน้นย้ำบริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่ากรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งเก็บกักน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ควบคู่ไปกับการวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย การกำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดเจ้าหน้าที่ กำหนดเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปประจำไว้ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
กรมชลประทาน จะเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำในทุกช่วงเวลาให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด หากหน่วยงานหรือประชาชนท่านใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน ได้ตลอดเวลา