กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน (27 มี.ค. 68) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 24,371 ล้าน ลบ.ม. (47% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 15,232 ล้าน ลบ.ม. (61% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) จนถึงขณะนี้ทั้งประเทศมีการใช้น้ำไปแล้วกว่า 23,786 ล้าน ลบ.ม. (82%) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 8,117 ล้าน ลบ.ม. (90%) ทางด้านสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวนาปรัง พบว่าทั้งประเทศมีการทำนาปรังไปแล้วกว่า 9.83 ล้านไร่ (98% ของแผนฯ) เก็บเกี่ยวแล้ว 3.69 ล้านไร่ (37% ของผลการเพาะปลูก)
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้สั่งการให้สำนักงานชลประทาน เฝ้าระวัง ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันที พร้อมกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศแจ้งเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ในช่วงวันที่ 29 มี.ค. – 1 เม.ย. 68 นี้ ตามข้อห่วงใยของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์