122 ปี กรมชลประทาน มุ่งพัฒนาแหล่งน้ำอย่างไม่หยุดนิ่ง “น้ำมั่นคง อนาคตยั่งยืน”

0
62118

ครบรอบ 122 ปี กรมชลประทาน มุ่งสู่ปีที่ 123  พัฒนางานด้านชลประทานอย่างไม่หยุดนิ่ง มุ่งสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ เพิ่มคุณค่าการบริการ ก้าวสู่องค์กรอัจฉริยะ  จัดกิจกรรมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 122 ปี กรมชลประทาน “น้ำมั่นคง อนาคตยั่งยืน”   โดยได้รับเกียรติจาก ร้อยเอก  ธรรมนัส  พรหมเผ่า  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน  โดยมี นายชูชาติ  รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน  พร้อมคณะผู้บริหาร ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน  เข้าร่วมงาน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 122 ปี กรมชลประทาน “น้ำมั่นคง อนาคตยั่งยืน” ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ด้านการบริหารจัดการน้ำ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยต่อไป

“สิ่งที่จำเป็นที่กรมชลประทานต้องทำคือ จะต้องทำแผนที่ผันน้ำในทุกจังหวัด ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ สู่ลุ่มน้ำสายหลัก ต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และหากเรามีแผนที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ผ่านไปได้ นอกจากนี้ การกักเก็บน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่าอุณภูมิที่สูงขึ้น จะต้องมีระบบการกระจายน้ำที่เป็นระบบปิดหรือระบบท่อ เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ อีกทั้งยังต้องขยายพื้นที่ชลประทานในพื้นที่ภาคการเกษตร ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านไร่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมชลประทานเตรียมรับสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝน ที่คาดว่าจะมีฝนตกหนัก และมากกว่าปีที่แล้ว จึงต้องเตรียมแหล่งกักเก็บน้ำ และศึกษาเส้นทางน้ำทั้งหมด รวมถึงได้ลงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป” รมว.เกษตรฯ กล่าว

นายชูชาติ  รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ทุ่มเททำงานเพื่อสานต่องานด้านชลประทานอย่างไม่หยุดนิ่ง จวบจน 122 ปี ในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 นี้   กรมชลประทาน  ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้างาน  ตามภารกิจหลักภายใต้ยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้กว่า 49.5 ล้านไร่ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ประมาณ 93,655 ล้านลูกบาศก์เมตร  มุ่งเน้นเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่า ใน 4 ปี  สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร ด้วยหลักการ “ตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ตามนโยบายรัฐบาล ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเกษตรกร โดยมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ  ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน

ภายใต้แนวทางการบริหารงาน  “RID TEAM PLUS”   ซึ่งได้ต่อยอดจากแนวทาง RID TEAM  ตาม 3 หลักคิด คือ เชื่อถือได้  หลากหลาย นวัตกรรม นำสู่การพัฒนา มุ่งปฏิบัติงานด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ยกระดับการทำงานสู่ระดับสากล  เน้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อยกระดับการทำงานกับเครือข่ายอย่างแน่นแฟ้น มุ่งให้เกิดผลการพัฒนาอย่างยั่งยืน  โดยได้กำหนดเป้าหมายหลักในการดำเนินงานไว้  3  ประเด็น 15 กลยุทธ์  ได้แก่

ประเด็นที่ 1 องค์กรอัจฉริยะ (RID Intelligent Organization)  จัดการและบูรณาการระบบเทคโนโลยีฐานข้อมูล (Big Data) พัฒนากระบวนการทำงานสู่ระบบ Digital Platform พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ   จัดการความรู้(KM) เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร   พัฒนาระบบชลประทานด้วยเทคโนโลยี (IoT)

ประเด็นที่ 2 ความมั่นคงด้านน้ำ   (Water Security)  มุ่งพัฒนาแหล่งน้ำโครงการพระราชดำริและเขตพัฒนาพิเศษ เร่งเพิ่มพื้นที่ชลประทานและปริมาณน้ำต้นทุนอย่างต่อเนื่อง  เพิ่มประสิทธิภาพโครงการชลประทาน  บริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์  พัฒนารูปแบบและแนวทางการรับมือภัยพิบัติทางน้ำ   ปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงานและงบประมาณทั้งระบบ

ประเด็นที่ 3 เพิ่มคุณค่าการบริการ (Value to service) เสริมสร้างการมีส่วนร่วม สร้างเครือข่ายการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน  พัฒนาโครงการชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำ  พัฒนาทรัพยากรบุคคล เสริมสร้างความผาสุกและคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน  ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม  สนับสนุนการขับเคลื่อน BCG Economy Model  ตามนโยบายรัฐบาล

“แม้จะเป็นภารกิจอันใหญ่หลวง  กรมชลประทาน จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ เพื่อขับเคลื่อนงานชลประทานของประเทศให้เจริญก้าวหน้า สามารถสร้างประโยชน์สุขที่ยั่งยืนให้กับประชาชนต่อไป”  อธิบดีกรมชลประทานกล่าวในที่สุด

ทั้งนี้  ภายในงานมีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการพลเรือน และพนักงานราชการดีเด่น ประจำปี 2566  รางวัลการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา โครงการชลประทาน และฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษา ประจำปี 2567    รางวัลเลิศรัฐ  กรมชลประทาน ประจำปี2566  และรางวัลนวัตกรรมดีเด่น (KM)  โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการขับเคลื่อนงานตามภารกิจเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป  นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรมบริจาคโลหิต และกิจกรรม  KM DAY จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจรับชมพิธีเปิดงานครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 122 ปี และกิจกรรมต่างๆ  ได้ผ่านทาง Facebook กรมชลประทาน  และ YouTube กรมชลประทาน