กรมเจ้าท่า พร้อมยกระดับการตรวจตราปราบปรามผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย สร้างความปลอดภัยการเดินทางทางน้ำเพิ่มขึ้น

0
11567

กรมเจ้าท่า โดยสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ จัดประชุม vdo conference ยกระดับการตรวจตราปราบปรามผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย โดยมีนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธาน พร้อมด้วยนายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านปฏิบัติการ ผู้บริหารส่วนกลาง ผู้บริหารส่วนภูมิภาค เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วม vdo conference ในวันที่ 6 มกราคม 2564 ณ ห้องประชุมบุญเลื่อน อาคาร 6 ชั้น 3 กรมเจ้าท่า

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า การจัดประชุมเพื่อยกระดับการตรวจตราปราบปรามผู้กระทำความผิดตามกฎหมายการเดินเรือที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่าในวันนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามมาตรการกำกับการดูแลความปลอดภัยทางน้ำของกรมเจ้าท่าทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เป็นมาตรฐานเดียวกันและเกิดประสิทธิภาพ รวมถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยและถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย ได้แก่ ด้านมาตรฐานตัวเรือ เรือทุกลำก่อนต่อใบอนุญาตใช้เรือจะต้องตรวจสภาพเรือประจำปี อาทิ ใบทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ ใบรับรองการตรวจสภาพเรือ ความปลอดภัยของตัวเรือตามประเภทของการใช้เรือ ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานตัวเรือจากกรมเจ้าท่า เรือจะต้องมีความปลอดภัยทั้งภายในตัวเรือและภายนอกตัวเรือ ซึ่งได้ยกระดับจัดเรือตรวจการณ์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยเรือ สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและเป็นไปตามข้อกฎหมาย ด้านมาตรฐานท่าเทียบเรือ จะต้องตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรง ตลอดจนอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ประจำท่าเทียบเรือ ท่าเรือจะต้องสะอาดและได้มาตรฐานความปลอดภัย ด้านมาตรฐานคนประจำเรือ สถานศึกษาต้องได้รับการตรวจสอบหลักสูตรฝึกอบรมจากกรมเจ้าท่า โดยประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ ต้องเป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยการตรวจเรือกำหนด ด้านมาตรฐานการเดินเรือ นำระบบ VTS และ CCTV มาใช้ในการกำกับ ดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือ เรือที่เข้าออกนอกน่านน้ำไทยต้องแจ้งและรายงานผ่านระบบ NSW@MD ตรวจสอบและติดตามเรือได้ทันเวลา

ทั้งนี้ อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เร่งยกระดับการออกตรวจตราปราบปรามทางน้ำอย่างเข้มข้น ให้เป็นไปตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ลดความเสียหายต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยได้เน้นย้ำการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อการสื่อสารได้อย่าง Realtime เพิ่มประสิทธิผลการดําเนินงานให้สามารถทันต่อเวลา รวมถึงการจัดทำรวบรวมระบบฐานข้อมูล คู่มือการปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝึกปฏิบัติทักษะให้เกิดความชำนาญ ความเข้าใจ แม่นยำ และจะต้องทดสอบทุก 6 เดือน สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน และนำไปสู่การพัฒนาการคมนาคมทางน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป