จากกรณีที่ราษฎรหมู่ที่ 3 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ร้องเรียนว่า โครงการชลประทานพัทลุงนำท่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร วางในคลองขุดศาลาเเม็งเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และนำดินมาถมทับท่อดังกล่าว จนทำให้ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร นั้น
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำฝายคลองหลักสาม ก่อสร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ และสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จำนวนกว่า 15,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาโหนด อำเภอเมือง และตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง โครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงทำให้ประสิทธิภาพการส่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่บ้านศาลาแม็ง หมู่ 3 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา ยังทำได้ไม่เต็มศักยภาพ
ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดพัทลุง ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างดังกล่าว และให้พิจารณาช่วยเหลือน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภค การปศุสัตว์ รวมไปถึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
.
สำหรับการก่อสร้างโครงการระบบส่งน้ำแก้มลิงหลักสาม พร้อมอาคารประกอบ บ้านศาลาแม็ง หมู่ 3 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง นั้น ประกอบด้วย ท่อน้ำพร้อมอาคารประกอบ ยาว 250 เมตร คลองส่งน้ำ(ดินขุด) ยาว 1.65 กิโลเมตร อาคารอัดน้ำ จำนวน 3 แห่ง ระบบส่งน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 3 สาย รวมควายาวประมาณ 2.9กิโลเมตร โดยทำการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2563 นี้ ราษฎรส่วนใหญ่ในพื้นที่เห็นชอบตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา แต่ยังมีราษฎรเพียงบางรายที่ไม่เห็นด้วย จึงได้กำหนดให้มีการประชุมประชาคมราษฎรอีกครั้ง เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ณ ศาลาประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง โดยมีนายอำเภอกงหรา พร้อมด้วยผู้แทนกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีมติเห็นพ้องกันว่า ให้โครงการชลประทานพัทลุงดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินพัทลุง เข้ามารังวัดที่ดินของราษฎร ซึ่งมีแนวเขตติดต่อกับแนวท่อให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 และให้ดำเนินการก่อสร้างคลองดาดคอนกรีตเลียบ แนวท่อ และก่อสร้างอาคารอัดน้ำ จำนวน 3 แห่ง พร้อมระบบส่งน้ำ จำนวน 4 สาย เพื่อให้ราษฎรได้ใช้น้ำ เพื่อการเกษตร และอุปโภค-บริโภค ได้ดังเดิมในระยะต่อไป
