ที่ฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง บ้านหนองบง ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายประพิศ จันทร์มาอธิบดีกรมชลประทาน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ในพื้นที่ อำเภอโกสัมพีนคร อำเภอเมืองกำแพงเพชร และ อำเภอพรานกระต่าย ส่วนใหญ่พบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งเป็นประจำ เนื่องจากไม่มีประตูระบายน้ำหรือฝายทดน้ำในแม่น้ำปิง
กรมชลประทาน จึงได้ศึกษาความเหมาะสมถึงแผนพัฒนาอาคารบังคับน้ำ ในแม่น้ำปิงท้ายเขื่อนภูมิพล 14 โครงการซึ่งฝายหนองวัวดำ เป็น 1 ใน 14 โครงการตามแผนหลักฯ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง ความยาว 380 เมตร พร้อมประตูระบายน้ำปากคลองส่งน้ำ 1 ช่อง และงานขุดลอกคลองส่งน้ำ พร้อมคอนกรีตความยาว 480 เมตร งานป้องกันตลิ่งฝั่งขวาความยาวประมาณ 1,000 เมตร รวมทั้งอาคารประกอบอื่นๆ ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (2565-2567) จะทำให้ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานได้ 20,000 ไร่ มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 70,000 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ทั้งยังสามารถช่วยชะลอน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากได้อีกด้วย
ต่อจากนั้น เดินทางต่อไปยัง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง 
สำหรับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง มีพื้นที่ชลประทานอยู่ในเขตจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดสุโขทัยรวมประมาณ 550,633 ไร่ ในช่วงฤดูแล้งมักจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำต้นทุนจากเขื่อนภูมิพล ขณะที่ในพื้นที่มีความต้องการใช้น้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง(ฝายท่อทองแดง) ความยาว 470 เมตร พร้อมประตูระบายน้ำปากคลอง จำนวน 5 ช่อง สามารถรับและระบายน้ำได้สูงสุด 70 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งก่อสร้างคลองส่งน้ำสายใหญ่และคลองส่งน้ำสายซอยอีก 24 สาย เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้น แต่เนื่องจากช่วงฤดูฝนที่ผ่านมามีน้ำหลากผ่านฝายในปริมาณมาก จนส่งผลให้บริเวณฝั่งขวาฝายเริ่มทรุดตัว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการกัดเซาะเสียหายได้ในอนาคต เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำหลากในปี2566 กรมชลประทานจึงได้เร่งเสริมความแข็งแรงด้านท้ายรักษาความมั่นคงของฝาย รวมทั้งเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อแดง กว่า 55,000 ไร่
ในส่วนของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว มีพื้นที่ชลประทานอยู่ในเขตจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดพิจิตรรวมประมาณ 752,143 ไร่ บริหารจัดการน้ำโดยใช้ฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง(ฝายวังบัว) ความยาว 450 เมตร พร้อมประตูระบายน้ำ 2 ช่อง สามารถรับและระบายน้ำได้สูงสุด 60 ลบ.ม./วินาที ส่งน้ำผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่และคลองส่งน้ำสายซอย 5 สาย
โดยในช่วงฤดูแล้ง หากปีไหนปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้อย จะรับน้ำตามรอบหมุนเวียนร่วมกับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังยาง–หนองขวัญ ตามแผนบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ส่วนในช่วงฤดูฝนจะทำหน้าที่รับน้ำนอง ตัดยอดน้ำจากแม่น้ำปิงบางส่วน เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง แต่เนื่องจากในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ฝายถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาดกรมชลประทาน ได้เร่งซ่อมแซมปิดช่องขาดแล้วเสร็จ ปัจจุบันสามารถยกระดับน้ำและส่งน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ให้เกษตรกรได้เพาะปลูกได้ตามฤดูกาลปกติแล้ว
ทั้งนี้ รองนายกฯได้กำชับกรมชลประทาน เร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง(ฝายหนองวัวดำ) และเร่งซ่อมแซมฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง(ฝายท่อทองแดง) และฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง(ฝายวังบัว) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการฯ โดยเร็วที่สุด
