สธ.-ศธ. พัฒนาหลักสูตรอาหาร-ผลิตภัณฑ์สุขภาพกัญชา

0
11768

กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาหลักสูตรอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่มีส่วนประกอบจากกัญชาและกัญชง ต่อยอดไปสู่กิจการอื่น นอกจากใช้ทางการแพทย์รักษาผู้ป่วย

เมนูอาหารจากกัญชาหลากหลายชนิดถูกนำมาจัดแสดงและสาธิต โดยมีแพทย์แผนไทยจากโรงพยาบาลอภัยภูเบศรคอยแนะนำอาหารและสาธิตวิธีการทำอาหารจากกัญชา

โดย นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านโภชนาการจากส่วนของพืชกัญชาและกัญชง ที่ได้รับการยกเว้นจากการเป็นยาเสพติดระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับ กระทรวงศึกษาธิการ หลังจากได้มีการปลดล็อคส่วนอื่นของกัญชา ให้สามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์สุขภาพ และทำอาหารได้

ซึ่งเมนูอาหารที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ ถูกนำมาสาธิตภายในวันนี้ เช่น พิซซ่าอารมณ์ดี รื่นเริงบันเทิงยำ ชาชิมกัญ ซู่ซ่ารื่นเริง ข้าวกระเพราสุขใจ ก๋วยเตี๋ยวอารมณ์ดี ขนมปังคึกคัก คุกกี้กัญชา

ดร. สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน.จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการพัฒนาหลักสูตร โดยเน้นการประสานภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านไทยกับงานวิจัยสมัยใหม่เพื่อทำให้หลักสูตรมีความถูกต้องปลอดภัยและทันสมัยในระยะแรกหลักสูตรจะเน้นเรื่องการพัฒนาเกี่ยวกับธุรกิจอาหารสุขภาพและต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ

โดยในเดือนมีนาคมจะมีการเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียน ในงานมหกรรมกัญชา 360 องศา ที่สนามช้าง อารีนา โดยหลักสูตรจะครอบคลุมในทุกผลิตภัณฑ์และบริการที่กัญชาและกัญชงมีศักยภาพ มีนาคมที่สนามช้างอารีน่าจังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับประชาชนทั่ว ผู้ประกอบการร้านอาหาร  ที่อยากจะนำกัญชามาปรุงอาหารหรือ ทำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา สามารถทำได้ แต่จะต้องไช้กัญชา จากผู้ที่ได้รับอนุญาตในการปลูกกัญชาและผลิตกัญชาที่ถูกต้อง จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก่อน โดย วัตถุดิบกัญชา จะต้องสามารถติดตามได้ว่ามาจากแหล่งไหน ปลูกโดยใคร เช่น วิสาหกิจชุมชนที่ปลูกร่วมกับ รพ.สต เป็นต้น  เบื้องต้นแนะนำให้บริโภคกัญชาได้5ใบต่อวัน

ทั้งนี้ หลังจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข   ปลดล็อกทุกส่วนของกัญชา กัญชง พ้นยาเสพติดให้โทษ  ยกเว้น ช่อดอก และเมล็ดกัญชา  โดยประกาศลงราชกิจจานุเบกษา  มีผลบังคับใช้วันที่15 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป   ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนของกัญชากัญชงที่ไม่จัดเป็นยาเสพติดได้แก่ ใบที่ไม่ติดกับช่อดอก กิ่งก้าน ลำต้น เปลือกราก รวมถึงสารสกัด CBD ในกัญชา  และกากที่เหลือจากการสกัด ซึ่งต้องมีปริมาณTHC ไม่เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ และน้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย และการผลิตภัณฑ์สุขภาพเท่านั้น

ทั้งนี้วัตถุดิบกัญชา ต้องได้มาจากสถานที่ปลูกหรือผลิตในประเทศที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น  ส่วนกรณีการ นำเข้าทำได้เฉพาะเปลือกแห้งแกนลำต้นแห้งและเส้นใหญ่แห้ง