มกอช. ขานรับนโยบายธรรมนัส รมว.กษ. ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรแปลงใหญ่มังคุด/ ส้มโอทับทิมสยาม จังหวัดนครศรีธรรมราช สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

0
35728

วันที่ 21 กันยายน 2566 นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นประธานโครงการสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่แปลงใหญ่มังคุด อ.ชะอวด ให้มีความรู้และเข้าสู่ระบบการรับรองมาตรฐาน GAP รวมทั้งส่งเสริมให้โรงรวบรวมมังคุด อ.พรหมคีรี ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และมีการเชื่อมโยงตลาดเพื่อรับซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรอง อีกทั้งยังสร้างความรู้ ความเข้าใจการใช้และแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน (Q) การใช้ระบบตามสอบสินค้าเกษตรและอาหาร (QR Trace) ในพื้นที่แปลงใหญ่ส้มโอทับทิมสยาม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช

​ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมมอบใบรับรองมาตรฐาน GAP ให้กับเกษตรกรแปลงใหญ่ที่ผ่านการรับรอง จำนวนทั้งสิ้น 89 ราย และสนับสนุนการแสดงเครื่องหมายรับรอง จำนวนทั้งสิ้น 31 ราย และจัดให้มีเวทีเสวนาในหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายของสินค้าเกษตรแปลงใหญ่จ.นครศรีธรรมราช” โดยมีวิทยากรจากเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้แทน มกอช. เรื่อง มาตรการและกฎระเบียบของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น แหล่งจำหน่ายสินค้าคุณภาพ (องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร) ห้างโมเดิร์นเทรด (TOP Supermarket) และตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ปัญหาและอุปสรรค พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ให้ได้ราคาที่สูงขึ้นผ่านกิจกรรม Matching ตลาดพบผู้ผลิตสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มช่องทางให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าได้ด้วยตนเอง และแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ

​นอกจากนั้นยังได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานและเยี่ยมชมการบริหารจัดการแปลงปลูกมังคุด ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อ.ชะอวด และพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ส้มโอทับทิมสยาม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และแนะนำการใช้งานระบบ QR Trace ในสินค้า เพื่อตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้าเกษตรนั้น สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานตลอดห่วงโซ่การผลิต


​ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ได้ขานรับนโยบายของ รมว. กษ. ในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตมังคุดตกต่ำอย่างยั่งยืน ซึ่งได้ร่วมบูรณาการระหว่างหน่วยงานกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในพื้นที่ ส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด มีคุณภาพได้รับการรับรอง สร้างโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงราคากันอย่างเป็นธรรม ผ่านกิจกรรม Matching ตลาดพบผู้ผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองทางการตลาด สนองต่อนโยบายรัฐบาลในเรื่อง“ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”