มนัญญา ลงพื้นที่จันทบุรี จัดทัพป้องราคาผลไม้ตกต่ำ ใช้เครือข่ายสหกรณ์รุกกระจายผลไม้สู่ตลาดทุกพื้นที่

0
5630

มนัญญา ลงพื้นที่จันทบุรี จัดทัพป้องราคาผลไม้ตกต่ำ ใช้เครือข่ายสหกรณ์รุกกระจายผลไม้สู่ตลาดทุกพื้นที่ อีกด้านจับคู่โมเดิร์นเทรดซื้อผลไม้โดยตรงกับสหกรณ์ ค่ายยักษ์พร้อมใจร่วมซื้อ เผยตลาดเริ่มเคลื่อนไหวราคาขยับ

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้วางมาตรการผลักดันราคาผลไม้ภาคตะวันออกที่กำลังจะออกตลาดในฤดูร้อนเม.ย.-ก.ย. โดยใช้กลไกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมผลไม้ กระจายผลไม้ภาคตะวันออกไปทั่วประเทศ  เพื่อป้องกันราคาผลไม้ตกต่ำ จากเหตุระบาดไวรัสโควิด 19  ทำให้ประเทศคู่ค้าชะลอการซื้อ โดยเฉพาะทุเรียน  มังคุด  ลำไย  ที่ส่งออกไปจีน ฮ่องกง เวียดนาม จำนวนมาก โดย 3 ปีที่ผ่านมาส่งออกไป 3 ประเทศหลัก คือจีนเวียดนามและฮ่องกง กว่า 1.324 ล้านตัน  จากผลผลิตผลไม้ไทยทั้งปี  3 ล้านตัน โดยของบจากรัฐบาลมาทำงานเชิงรุก อุดหนุนการกระจายผลไม้ไปทั่วประเทศ ก่อนที่ผลผลิตจะออกและจะแก้ไม่ทัน
” ได้ของบประมาณ 414.20 ล้านบาทสำหรับบริหารจัดการกระจายผลไม้ผ่านระบบสหกรณ์สู่ผู้บริโภค โดยให้สหกรณ์ผู้ผลิตผลไม้ส่งผลผลิตไปยังสหกรณ์ผู้ซื้อในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภคในพื้นที่

โดยจะอุดหนุนค่าบริหารจัดการต้นทางถึงปลายทางประมาณ 4 บาทต่อกิโลกรัม โครงการ6เดือน เม.ย.- ก.ย. เป้าหมายเบื้องต้น 8 หมื่นตัน เพื่อกระตุ้นตลาด ซึ่งเมื่อเริ่มโครงการนี้ ตลาดก็มีการเคลื่อนไหว มีคนโทรมาว่า รมช.ไปทำอย่างไร พ่อค้าเริ่มลงพื้นที่หาของ  และล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีก็บอกว่าราคาทุเรียนขยับเพิ่มขึ้น ดิฉันก็อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันบริโภคผลไม้ และขอความร่วมมือห้างโมเดินเทรดช่วยพยุงราคาผลไม้ โดยรับซื้อผลผลิตผ่านสหกรณ์ไปจำหน่ายในห้างโมเดินเทรดทุกสาขาและขอให้รับซื้อในราคาที่เป็นธรรม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร “นส.มนัญญากล่าว

นอกจากนี้ รมช.เกษตรฯยืนยันว่าจะช่วยดูปัญหาเรื่องรับรองแปลงการผลิตที่ดีหรือGAP เพื่อให้สวนผลไม้ได้รับรองมาตรฐานและสามารถส่งออกได้ โดยได้ลงนามของบจากรัฐ400 ล้านบาท ให้กรมวิชาการเกษตร(กวก.) ที่ถูกตัดงบปี63ด้วย โดยจำนวนเงินเป็นไปตามที่กวก.เสนอ เพราะไม่เคยทิ้งกรมที่ตนเองดูแล


โอกาสนี้ ได้สนับสนุนสหกรณ์ชาวสวนผลไม้จับมือกับภาคเอกชน และมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายผลไม้ระหว่างสหกรณ์ชาวสวนผลไม้จากภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือ กับบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เทสโก้โลตัส) บริษัท สยามแมคโคร จำกัด(มหาชน) บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน) บริษัท เซนทรัล ฟู้ดรีเทล จำกัด(ท็อปซูเปอร์มาเก็ต) และบริษัทผู้ส่งออก ได้แก่ บริษัทริชฟิลด์ จำกัด เพื่อรับซื้อผลไม้คุณภาพจากสหกรณ์กระจายสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ


นายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมฯจะใช้ระบบสหกรณ์เป็นเครือข่ายกระจายและเชื่อมโยงตลาด จะทำให้มีช่องทางจำหน่ายจัดเจนของสหกรณ์ผู้ผลิตผลไม้โดยกรมจะอุดหนุนค่าบริหารจัดการ ค่าขนส่ง ตระกร้า รวมแล้วประมาณ 4 บาทต่อกิโลกรัม โดยคาดหวังว่าสหกรณ์จะเข้าไปมีส่วนแบ่งทางการตลาดผลไม้ เป้าหมาย 8 หมื่นตันในเบื้องต้น จะส่งผลให้ราคาอยู่ในระดับที่เกษตรกรพอใจ

นอกจากนั้น ยังได้จัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 1% จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 200 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการซื้อผลไม้จากเกษตรกร