อิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลาง ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ปริมาณฝนสูงสุดที่วัดได้ อาทิ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ 81 มิลลิเมตร(มม.) อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ 42 มม. อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี 56 มม. อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 50 มม. อ.สรรพยา จ.ชัยนาท 92 มม. และอ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา 60 มม. ดังนั้น ในช่วง 2-3 วันนี้ ยังคงต้องติดตามรายงานอากาศ ฝนตกหนักถึงหนักมากจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เช้าวันนี้(16 ต.ค. 64ป เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีการระบายน้ำ 400 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ดังนี้
📌อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เพิ่มขึ้น 1.11 เมตร (ยังต่ำกว่าตลิ่ง 7.03 เมตร)
📌อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพิ่มขึ้น 0.80 เมตร (ยังต่ำกว่าตลิ่ง 9.01 เมตร)
📌อ.เมือง จ.สระบุรี เพิ่มขึ้น 0.84 เมตร (ยังต่ำกว่าตลิ่ง 3.88 เมตร)
📌อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้น 0.01 เมตร (ยังต่ำกว่าตลิ่ง 2.35 เมตร)
📌ในขณะที่เขื่อนพระราม 6 มีการระบาย 332 ลบ.ม./วินาที
ด้านลุ่มน้ำเจ้าพระยา อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 2,350 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง ก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,512 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ด้านท้ายเพิ่มขึ้น ดังนี้
📌อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 30 ซม.
📌อ.เมือง จ.อ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 21 ซม.
📌อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 11 ซม.
📌อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังประมาณน้ำก่อนไหลลงสู่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีน้ำไหลผ่าน 2,646 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากวานนี้เล็กน้อยมีการนำน้ำเข้าทุ่งพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปแล้วรวม 1,550.87 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 91 ของปริมาณน้ำทั้งหมด
กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฝนที่ยังตกชุกและตกหนักบางแห่งอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำและริมน้ำ ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา